บริษัท สยามโอคามูระอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้จัดทำและเผยแพร่ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าและคู่ค้าปัจจุบันหรือในอนาคตของบริษัทฯ ผู้รับจ้าง ผู้ให้เช่า ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา ผู้สอบบัญชี รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของบุคคลดังกล่าวข้างต้น ตลอดจนผู้มาติดต่อกับบริษัทฯ และบุคคลภายนอกอื่น ๆ ซึ่งได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้แก่บริษัทฯ รวมถึงวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
บริษัทฯ มีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านช่องทางที่เหมาะสม
คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้ขอบเขตของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ในกรณีต่อไปนี้
(1) เมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม
(2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ใน
การดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา
(4) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(5) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเสมอ เว้นแต่เป็นกรณีที่เข้าเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งตามที่ระบุไว้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
2.2 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
2.2.1 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าในอนาคตของบริษัทฯ รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของบุคคลดังกล่าวข้างต้น (“ลูกค้า”)
1. เพื่อการติดต่อประสานงานกับลูกค้าเพื่อการประชาสัมพันธ์และเสนอขายสินค้าให้แก่ลูกค้า
2. เพื่อการจัดทำสัญญา และการปฏิบัติหน้าที่ภายในขอบเขตตามสัญญาหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ลูกค้าร้องขอ เช่น การออกใบเสนอราคา การรับหรือส่งข้อมูลและเอกสารระหว่างลูกค้ากับบริษัทฯ การยืนยันการรับคำสั่งซื้อ การลงทะเบียนเปิดบัญชีลูกค้าในระบบฐานข้อมูลและระบบของบริษัทฯ การลงทะเบียนลูกหนี้เจ้าหนี้ในระบบ การจำหน่ายสินค้า การส่งสินค้าและออกใบส่งสินค้า การดำเนินการส่งมอบและติดตั้งสินค้า รวมถึงการออกใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบลดหนี้ ใบเพิ่มหนี้ ใบกำกับภาษี การตรวจสอบการชำระเงิน ตลอดจนการติดต่อประสานงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
3. เพื่อการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้า กรณีที่สินค้าของบริษัทฯ มีปัญหาหรือชำรุด รวมถึงการให้บริการหลังการขายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.2.2 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับคู่ค้าปัจจุบันและคู่ค้าในอนาคตของบริษัทฯ ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา ผู้สอบบัญชี รวมถึงกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของบุคคลดังกล่าวข้างต้น (“คู่ค้า”)
1. เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของคู่ค้าและติดต่อก่อนเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง ในฐานะที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาโดยตรง หรือในฐานะที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของคู่ค้าดังกล่าว รวมถึงการขอใบเสนอราคาและรายละเอียดสินค้าและบริการ
2. เพื่อการเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า การจัดทำคำสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การพิจารณาตรวจสอบสัญญา รวมถึงการขออนุมัติเพื่อการเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าว
3. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ภายในขอบเขตตามสัญญา หรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าและบริการจากคู่ค้า เช่น การติดต่อประสานงานกับคู่ค้า การรับหรือส่งข้อมูลและเอกสารระหว่างคู่ค้ากับบริษัทฯ การลงทะเบียนเปิดบัญชีคู่ค้าในระบบฐานข้อมูลและระบบบัญชีของบริษัทฯ การลงทะเบียนลูกหนี้เจ้าหนี้ในระบบ การประสานงานส่งหรือติดตั้งสินค้าให้แก่ลูกค้า การตรวจรับสินค้า การชำระค่าสินค้าและบริการ การหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นต้น ตลอดจนเพื่อการประสานงานและบริหารจัดการภายในของบริษัทฯ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว inspection of products, payment of products or services, withholding taxes, and the relevant internal coordination and administration of the Company.
4. เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาอนุมัติ และการดำเนินการเบิกจ่ายเงินทดรองของพนักงานของบริษัทฯ
2.2.3 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
1. เพื่อการให้สิทธิในการใช้งานสัญญาณอินเทอร์เน็ต (Wi-Fi) ของบริษัทฯ สำหรับผู้มาติดต่อบริษัทฯ
2. เพื่อการประสานงานและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ เช่น การขออนุญาตเข้าพื้นที่เพื่อการเข้าส่งมอบหรือติดตั้งสินค้าในสถานที่ของลูกค้า เป็นต้น
3. เพื่อการดำเนินการวางแผน รายงาน ประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ
4. เพื่อการบริหารความเสี่ยง การป้องกันและตรวจสอบ การรายงาน และการบริหารจัดการภายในองค์กร ตามที่กำหนดในกฎหมาย คำสั่งหรือระเบียบภายในของบริษัทฯ รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการทุจริตหรือประพฤติมิชอบภายในบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบภายในของบริษัทฯ การตรวจสอบและป้องกันการทุจริตหรือการกระทำอื่นใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น
5. เพื่อการสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ คำสั่ง ข้อกำหนดและหน้าที่ตามกฎหมายของไทยและต่างประเทศของบริษัทฯ เพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายบังคับคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ รวมทั้งเพื่อการดําเนินกระบวนการยุติธรรม การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
6. เพื่อการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ เช่น การควบรวมกิจการหรือการโอนสัญญาซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับหรือการปฏิบัติตามสัญญา หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าวบริษัทฯ อาจมีความรับผิดตามกฎหมายและ/หรือไม่สามารถบริหารหรือจัดการสัญญาหรืออำนวยความสะดวกแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
3.1.1 ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สัญชาติ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หมายเลขหนังสือเดินทาง (Passport) สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ลายมือชื่อ เลขทะเบียนรถ เป็นต้น
3.1.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่สำนักงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ (Line ID) เป็นต้น
3.1.3 ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
3.1.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน คุณวุฒิ ทักษะและคุณสมบัติอื่น ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ตำแหน่งงาน แผนก สังกัดหน่วยงาน หมายเลขประจำตัวผู้สอบบัญชี ข้อมูลใบอนุญาตอื่น ๆ เป็นต้น
3.1.5 ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอีเมล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address) รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ข้อมูลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie ID) หรือเทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานสำหรับใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัทฯ (Username, Password) ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) เป็นต้น
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ศาสนาและ/หรือหมู่โลหิตที่ปรากฎบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามที่กฎหมายกำหนด appeared on a photocopy of national ID card, upon obtaining explicit consent from the Data Subjects or when permitted by law.
3.2 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่
3.2.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ กับบริษัทฯ หรือขั้นตอนการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา การลงนามในสัญญา การแนบเอกสารประกอบการทำสัญญา การยื่นข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ ต่อบริษัทฯ การติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ (เช่น ทางโทรศัพท์ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์)
3.2.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้าของบริษัทฯ เอกสารของทางราชการ หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ (เช่น ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น)
4. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงดำเนินความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัทฯ
5. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ตามที่กฎหมายกำหนด หากบริษัทฯ ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
6.1.1 ตัวแทน ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง และ/หรือ ผู้รับจ้างช่วง สำหรับการดำเนินงานใด ๆ ให้แก่บริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ฝ่ายอาคารของลูกค้า ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี ที่ปรึกษาใด ๆ เป็นต้น
6.1.2 ธนาคารและสถาบันการเงิน เพื่อการชำระเงินหรือรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ
6.1.3 ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ
6.1.4 หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมจัดหางาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น
6.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังนี้
7.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
7.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
7.3 สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก บริษัทฯ ได้ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ตามที่กฎหมายกำหนด
7.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด
7.5 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
7.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุตามที่กฎหมายกำหนด
7.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.8 สิทธิในการร้องเรียน
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่งบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด
8. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
กรณีที่บริษัทฯ มอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทฯ บริษัทฯ จะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าวอย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
9. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่
บริษัท สยามโอคามูระอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 3199 อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ชั้น 19 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
หมายเลขโทรศัพท์: 0-2661-5474
E-mail: webcontact@th.okamura.com
[Published on 21/10/2025]