แนะนำ 5 วิธีตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ให้น่ามาทำงาน ดีต่อสุขภาพกายและใจ

September 3, 2023

ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

แนะนำ 5 วิธีตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ให้น่ามาทำงาน ดีต่อสุขภาพกายและใจ

โพสใน

การตกแต่งออฟฟิศดีไซน์โดยคำนึงถึงการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Wellbeing) เป็นหลัก จะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ และมีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นได้

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะตกแต่ง หรือดีไซน์ออฟฟิศอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงาน ในบทความนี้ Siam Okamura จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 วิธีแต่งออฟฟิศให้ดีต่อสุขภาพกายและใจ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนมาก เพื่อไว้ใช้เป็นไอเดียในการแต่งออฟฟิศ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ความสำคัญของการตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ต่อสุขภาพกายและใจของพนักงาน

การทำงานเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด ความกดดัน และความวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย จนนำไปสู่การเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หรืออาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจ จนนำไปสู่การเป็นภาวะซึมเศร้า หรือภาวะเครียดเรื้อรังได้ 

การเลือกออฟฟิศดีไซน์ หรือตกแต่งออฟฟิศ ให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เอื้ออำนวยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ เพราะสถานที่ทำงานเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พนักงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยนานที่สุด อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน การที่พนักงานทำงานในสถานที่ที่ดีก็จะช่วยให้มีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดีตามไปด้วยนั่นเอง

แนะนำ 5 วิธีตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ให้ดีต่อสุขภาพกายและใจ

การตกแต่งออฟฟิศให้ดีต่อสุขภาพกายและใจ ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์ในออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น เสียงรบกวน แสงสว่างจากธรรมชาติ หรือคุณภาพอากาศในออฟฟิศด้วย เพราะองค์ประกอบเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างมาก

เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมของออฟฟิศดีไซน์นี้มากขึ้น เราได้สรุป 5 วิธี แต่งออฟฟิศให้ดีต่อทั้งสุขภาพกายและใจมาให้แล้ว สามารถนำไปปรับใช้กับออฟฟิศของตัวเองได้เลย

1. เพิ่มแสงธรรมชาติในการตกแต่งออฟฟิศมากขึ้น

ออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีหน้าต่างน้อย และมักใช้ผ้าม่านหนา ๆ คอยบังแสงแดดอยู่เสมอ แล้วเลือกใช้แสงสว่างจากหลอดไฟเป็นหลัก โดยที่ไม่รู้เลยว่า การใช้แสงประดิษฐ์จากหลอดไฟมากเกินไปเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดหัว และตาพร่ามัวได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลง

นอกจากนี้การที่พนักงานในออฟฟิศสัมผัสกับแสงแดดตอนเช้า หรือตอนกลางวันน้อยเกินไป ยังส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับและการตื่นทางอ้อมด้วย โดยจะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ในระยะยาว เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ หงุดหงิดง่าย ความคิดสร้างสรรค์แย่ลง ภูมิคุ้มกันลดลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

ดังนั้นการเพิ่มหน้าต่างให้มีแสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้ามาในออฟฟิศมากขึ้น จึงเป็นวิธีตกแต่งออฟฟิศง่าย ๆ ที่ช่วยให้พนักงานมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้นได้นั่นเอง

2. ออกแบบออฟฟิศดีไซน์ให้ส่งเสริมความคล่องตัว

ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของประเทศอังกฤษ​ (National Health Service) หรือ NHS ได้กล่าวไว้ว่า การนั่งทำงานนาน ๆ มากเกินไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้าลง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และการสะสมของไขมันในร่างกาย

การออกแบบออฟฟิศดีไซน์ที่ส่งเสริมให้เกิดความเคลื่อนไหวจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะการที่พนักงานมีการขยับร่างกาย หรือเคลื่อนที่บ่อย ๆ จะทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสุขภาพกายและใจที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นตามไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น การตกแต่งออฟฟิศแบบเปิดโล่ง จัดมุมทำงานหลาย ๆ มุม และใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการทำงาน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถยกโน้ตบุ๊กไปทำงานได้ทุกที่อย่างยืดหยุ่นและอิสระ ก็ช่วยให้มีความคล่องตัวมากขึ้นนั่นเอง

3. ปรับปรุงคุณภาพอากาศ

คุณภาพอากาศในอาคารเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจละเลยอยู่เสมอ ทั้ง ๆ ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของพนักงานอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีหลายสิ่งมากที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ เช่น ฝุ่นจาก PM.25 มลภาวะจากเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด คราบสกปรกบนโต๊ะทำงาน หรือไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรม เป็นต้น

เจ้าของธุรกิจสามารถปรับคุณภาพอากาศในออฟฟิศได้ง่าย ๆ โดยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และหมั่นทำความสะอาดออฟฟิศอยู่เสมอ โดยเฉพาะการกำจัดแบคทีเรียและไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรม ก็จะช่วยให้คุณภาพอากาศในออฟฟิศดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 

ซึ่งการที่ออฟฟิศมีอากาศปลอดโปร่ง หายใจได้โล่งสบาย ก็จะช่วยให้พนักงานรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ทางอากาศ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

4. เพิ่มความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การทำงานท่ามกลางธรรมชาติจะช่วยให้พนักงานรู้สึกมีชีวิตชีวา กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สามารถปรับปรุงสุขภาพจิต และลดความเครียดได้ แต่การทำงานในออฟฟิศมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้พนักงานรู้สึกขาดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการตกแต่งออฟฟิศด้วยวัสดุทางธรรมชาติมากขึ้น เช่น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ หินอ่อน หรือหินแกรนิต ร่วมกับตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์จากชุมชนต่าง ๆ อย่าง รูปปั้น เครื่องสาน และเพิ่มไม้พุ่ม หรือพืชพรรณต่าง ๆ ทั่วบริเวณออฟฟิศ​ ก็จะช่วยเพิ่มให้พนักงานรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การที่มีต้นไม้ในออฟฟิศจะช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในอากาศ​ ซึ่งจะช่วยลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจให้กับพนักงาน ลดความเครียด และทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย

5. ควบคุมเสียงรบกวนอย่างพอดี

มลภาวะทางเสียงสามารถส่งผลกระทบต่อสมาธิการทำงานอย่างมาก ทำให้รู้สึกขาดความเป็นส่วนตัว และทำให้การคิดวิเคราะห์งาน หรือทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นไปได้ยาก อีกทั้งการที่มีเสียงรบกวนจากสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา เช่น เสียงโทรศัพท์ เสียงรถจราจร เสียงการทำงานของเครื่องพิมพ์ หรือเสียงจากเครื่องถ่ายเอกสาร ก็จะทำให้พนักงานรู้สึกรำคาญ และเกิดความเครียดสะสมได้ด้วย

การแก้ไขปัญหานี้ สามารถทำได้ด้วยการออกแบบออฟฟิศดีไซน์ให้หลากหลาย แบ่งโซนที่ใช้เสียง และงดใช้เสียงอย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะกับงานที่ทำในขณะนั้น หรือเลือกใช้โต๊ะทำงานที่มีพาร์ทิชันกั้นเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ก็ช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากเสียงรบกวนในที่ทำงานได้

 

สรุปเรื่องการตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ให้ดีต่อสุขภาพกายและใจ

การตกแต่งออฟฟิศดีไซน์ที่คำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นหลัก จะช่วยให้การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีในองค์กรทำได้ง่ายมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้พนักงานรู้สึกสบายใจที่จะมาทำงาน และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 5 วิธีแต่งออฟฟิศให้ดีต่อสุขภาพกายและใจที่ Siam Okamura นำมาแนะนำในบทความนี้ เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้กับออฟฟิศของตัวเองได้เลย รับรองว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน

 

Latest posts

SEE ALL