เจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคนคงอยากรู้ว่า ถ้าจะเปิดบริษัทให้ถูกต้องตามกฎหมายต้องทำอย่างไรบ้าง การจดทะเบียนบริษัทถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและดำเนินงานได้อย่างเป็นทางการ ยิ่งธุรกิจขยายตัวและมีรายได้เพิ่มขึ้น ยิ่งต้องเข้าใจขั้นตอนให้ชัดเจน จะได้เตรียมตัวได้ครบถ้วน มาดูกันว่าการจดทะเบียนบริษัทต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น
ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท ต้องทำความเข้าใจประเภทของการจดทะเบียนก่อน เพื่อเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง
การจดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนพาณิชย์ คือการเปิดบริษัทที่มีผู้ประกอบการคนเดียว หรือมีหุ้นส่วนไม่เกิน 3 คน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีมูลค่าไม่สูงมาก เจ้าของกิจการสามารถดำเนินธุรกิจในนามตนเองได้โดยไม่ต้องมีขั้นตอนซับซ้อน
การจดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนนิติบุคคล คือการเปิดบริษัทที่มีเจ้าของตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป บริษัทจะมีตัวตนทางกฎหมายที่ชัดเจน การดำเนินงานทุกอย่างจะออกมาในนามของบริษัท
การจดทะเบียนบริษัทแบบทะเบียนนิติบุคคล แบ่งได้เป็น 3 ประเภทย่อย ได้แก่
ห้างหุ้นส่วนสามัญ หมายถึงการดำเนินธุรกิจที่มีผู้ก่อตั้งหรือหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและแบ่งปันผลกำไรจากกิจการ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมายถึงการดำเนินธุรกิจที่มีผู้ก่อตั้งหรือหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ โดยจะแบ่งผู้ถือหุ้นออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบจำกัดความรับผิดชอบ และแบบไม่จำกัดความรับผิดชอบ
การประกอบธุรกิจรูปแบบบริษัทจำกัด เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการขยายตัวในระดับหนึ่ง มีมูลค่าของบริษัทที่สูง มีลักษณะการดำเนินธุรกิจร่วมกันเพื่อแสวงหากำไรร่วมกัน ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ในอดีตต้องมีผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงกฎหมายตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ให้สามารถจดทะเบียนบริษัทได้โดยมีผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
หลังจากเข้าใจประเภทการจดทะเบียนแล้ว มาดู 9 ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทที่ต้องปฏิบัติกันเลย
ก่อนตัดสินใจเปิดบริษัท สิ่งสำคัญอันดับแรก คือการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท ทำความเข้าใจว่าธุรกิจของคุณเหมาะสมกับการจดทะเบียนประเภทใด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล รวมถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของเอกสาร ชื่อบริษัท และเงื่อนไขทางกฎหมายต่าง ๆ
หลายคนสงสัยว่า จดทะเบียนบริษัท ใช้เอกสารอะไรบ้าง? เอกสารที่ต้องเตรียมไปจดทะเบียนบริษัทที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แก่
สำหรับเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ให้ผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งเซ็นชื่อรับรองความถูกต้องของสำเนาเอกสาร ในส่วนของสำเนาบัตรประจำตัวผู้ถือหุ้นแต่ละราย สามารถลงลายมือชื่อรับรองด้วยตนเองได้โดยตรง
การตั้งชื่อบริษัทเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ต้องระมัดระวัง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำที่ทำให้เข้าใจผิด ไม่ใช้พระนามของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในพระราชวงศ์ปัจจุบัน ไม่ใช้ชื่อประเทศ กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการใด ๆ คุณสามารถจองชื่อบริษัทได้สูงสุด 3 ชื่อ โดยชื่อที่จองต้องไม่ซ้ำหรือใกล้เคียงกับชื่อบริษัทที่มีอยู่แล้ว
วิธีการตรวจสอบและจองชื่อบริษัทสามารถทำได้ 2 ขั้นตอน คือ สมัครสมาชิกฟรีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และเข้าไปที่เมนู “จองชื่อ / ตรวจทะเบียนคำขอนิติบุคคล”
หนังสือบริคณห์สนธิ เป็นเอกสารแสดงความต้องการจัดตั้งบริษัท ต้องยื่นภายใน 30 วันหลังจากที่นายทะเบียนลงชื่อบนเอกสาร โดยเอกสารต้องระบุชื่อบริษัท ที่ตั้งสำนักงาน วัตถุประสงค์ ทุนจดทะเบียน ข้อมูลกรรมการ และรายละเอียดผู้ถือหุ้น
หลังจากดำเนินการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นของบริษัท โดยทุกคนสามารถเข้าซื้อหุ้นบริษัทได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจเท่านั้น ผู้ซื้อจะต้องซื้อหุ้นอย่างน้อย 1 หุ้น และเมื่อมีการจองซื้อหุ้นครบตามจำนวนที่กำหนด บริษัทจะต้องออกหนังสือเพื่อนัดประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดอีกครั้ง
การจัดประชุมบุคลากรที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาทำงานในบริษัทมีจุดประสงค์เพื่อให้บุคลากรทุกคนได้รับข้อมูลสำคัญและมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน ครอบคลุมเรื่องระเบียบและข้อบังคับขององค์กร กระบวนการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร การคัดเลือกผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสำหรับการตรวจสอบและให้ความเห็นชอบต่องบการเงิน การประกาศเรื่องผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ผู้ริเริ่มก่อตั้งบริษัท ตลอดจนการชี้แจงเกี่ยวกับจำนวนหุ้นสุทธิของบริษัท
ภายใน 3 เดือนหลังจากการประชุมบุคลากร ขั้นตอนสำคัญคือการจัดประชุมเพื่อตั้งคณะกรรมการบริษัท ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการจัดเก็บค่าหุ้นบริษัทจำนวน 25% ของราคาหุ้นจริงให้ครบแทนผู้ก่อตั้งบริษัท เพื่อยื่นขอจดทะเบียนบริษัท หากล่าช้ากว่ากำหนด การประชุมครั้งนั้นจะถือเป็นโมฆะและต้องจัดการประชุมขึ้นใหม่
การยื่นจดทะเบียนบริษัทมีค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระดังนี้
ขั้นตอนสุดท้ายคือการรับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ สามารถขอรับได้ที่นายทะเบียนหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในพื้นที่ เมื่อได้รับเอกสารแล้วถือว่าบริษัทถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันสามารถจดทะเบียนบริษัทได้ 3 ช่องทางหลัก ดังนี้
เมื่อเปิดบริษัท สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อหลังจากจดทะเบียนเสร็จสิ้นคือ การดำเนินการตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น การจัดทำบัญชีและงบการเงิน การเสียภาษีต่าง ๆ การจัดการด้านประกันสังคมสำหรับพนักงาน การขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคล นอกจากนี้ ควรมีการวางแผนการตลาดและการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืน
ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป กฎหมายอนุญาตให้จดทะเบียนบริษัทจำกัดโดยมีผู้ก่อตั้งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องมี 3 คนเหมือนเดิม
การเปิดบริษัทเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างถูกต้องและครบถ้วน การทำความเข้าใจขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท ทั้ง 9 ขั้นตอนจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากจดทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว การเลือกฤกษ์เปิดกิจการที่เหมาะสมจะช่วยเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองให้กับธุรกิจใหม่ของคุณ
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยออกแบบออฟฟิศใหม่ Siam Okamura ให้บริการออกแบบออฟฟิศครบวงจรตั้งแต่การวางผังเค้าโครง การให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงการจัดการโครงการและการบำรุงรักษา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำนักงานคุณภาพจากญี่ปุ่น ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน ที่จะช่วยเติมเต็มออฟฟิศของคุณให้พร้อมใช้งานอย่างมีสไตล์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่