ในปัจจุบันนี้ไทยเรามีบริษัทน้องใหม่เจ๋ง ๆ ผุดขึ้นมามากมาย ทำให้ Home Office เป็นสถานที่ทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจ SME และผู้ที่ต้องการทำธุรกิจส่วนตัวในพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่ระดับองค์กร แต่สามารถบริหารจัดการสัดส่วนต่าง ๆ ให้เหมือนกับบริษัททั่วไป และเป็นรูปแบบของออฟฟิศที่คนยุคใหม่ให้ความนิยมอีกด้วย
Home Office คืออะไร
Home Office เป็นออฟฟิศรูปแบบหนึ่งที่ลักษณะจะมีความคล้ายกับทาวน์โฮม แต่ภายในของ Home Office มักจะมีการออกแบบ ดีไซน์สัดส่วนให้เหมาะสมและรองรับกับการทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่สำนักงาน โดยโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่จะมี 2-3 ชั้นขึ้นไป โดยมีการปรับชั้นต่าง ๆ ให้เป็นห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องสตูดิโอ และที่พักไว้ในสถานที่เดียวกัน ซึ่งเป็นรูปแบบของสถานที่ทำงานที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนี้
ข้อดี-ข้อเสียของ Home Office
สำหรับ Home Office ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
- แบ่งสัดส่วนหรือโซนได้ชัดเจนในแต่ละชั้นของ Home Office
- ต้นทุนในการดูแล บำรุงรักษาน้อยกว่าออฟฟิศใหญ่ ๆ
- บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลาย
- สามารถใช้เป็นที่พักอาศัย และที่ทำงานได้
ข้อเสีย
- มีพื้นที่จำกัด
- ลงทุนในการเช่า-ซื้ออุปกรณ์สำนักงานสูง
- ภาพลักษณ์ของบริษัทไม่น่าเชื่อถือเท่าบริษัทใหญ่ ๆ
ธุรกิจใดเหมาะกับ Home Office
สำหรับประเภทธุรกิจที่เหมาะกับการทำ Home Office นั้นจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งขยายตัวมาจากการแบรนด์ตัวเองไปจนถึงธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจ SME ที่มีหุ้นส่วนสมาชิกไม่มาก หรือผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจส่วนตัวขนาดย่อม หรือบริษัทสำนักข่าวออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ในปัจจุบันที่โลกออนไลน์สามารถทำเงินจากการสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ส่งผลให้ Influencer จำนวนมากนิยมสร้าง Home Office ขึ้นมาเพื่อเป็นทีมงานของตัวเองในการทำงาน ซึ่งเป็นประเภทธุรกิจที่นิยมใช้สถานที่แบบ Home Office มากที่สุดอีกอย่างหนึ่งด้วย
วิธีสร้าง Home office
1. จัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม
อันดับแรกของการสร้าง Home office คือการวางแพลน จัดสรรโซนพื้นที่ให้เหมาะสม ว่าธุรกิจของเราจะต้องมีห้องทำงานกี่ส่วน กี่แผนก จะแบ่งด้วยการกั้นพาร์ทิชันหรือแบ่งด้วยรูปแบบการจัดโต๊ะ ห้องเจ้าของธุรกิจจะอยู่ตรงไหน ห้องสตูดิโอ และพื้นที่ส่วนกลางในบริเวณไหน รวมถึงพื้นที่สำหรับจอดรถของผู้มาติดต่อธุรกิจด้วย
2. มีอุปกรณ์ทำงานครบครัน
การเป็น Home office ต้องจิ๋วแต่แจ๋ว อุปกรณ์ที่รองรับการทำงานจะต้องมีครบ ไม่ว่าจะคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน โต๊ะประชุม อุปกรณ์ถ่ายทำสำหรับผลิตสื่อ ควรวางแผนการติดตั้งอุปกรณ์ให้เป็นระบบเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อพนักงานและบุคคลภายนอกด้วย
3. สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกบนพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพนักงานเองก็จำเป็นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน ไม่ว่าจะเครื่องทำกาแฟ ไมโครเวฟ หรือกาต้มน้ำร้อน เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น โซฟากลาง ทีวีขนาดใหญ่สำหรับใช้พรีเซนต์แผนงาน หรือนำเสนองานให้กับลูกค้า
4. สไตล์การตกแต่งที่ถูกใจ
ส่วนใหญ่ก็จะเน้นความสวยงามและมีสไตล์การออกแบบเป็นส่วนสำคัญ นอกจากเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีแล้ว ยังเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ของธุรกิจที่มีความทันสมัย หัวสมัยใหม่ออกมาผ่านการตกแต่งด้วย
สรุปบทความ
การจะสร้าง Home Office แม้จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะด้วยพื้นที่ที่มีจำกัดทำให้เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนในการจัดสรรพื้นที่ในแต่ละส่วนให้ออกมามีประโยชน์และคุ้มค่าต่อการใช้งานใช้สอยมากที่สุด รวมถึงต้องมีทุนในการซื้ออุปกรณ์สำนักงานที่มีราคาสูง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งออฟฟิศ ด้วย นอกจากนั้นต้องเลือกทำเลที่ตั้งของ ออฟฟิศให้หาเจอได้ง่าย อยู่ไม่ไกลจากแหล่งความเจริญจนเกินไปอีกด้วย จึงจะเป็นHome office ที่ประสบความสำเร็จ