หิ้งพระควรหันหน้าไปทางทิศไหน พร้อมเคล็ดลับจัดวางให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

September 5, 2025

ใช้เวลาอ่าน 3 นาที

หิ้งพระควรหันหน้าไปทางทิศไหน พร้อมเคล็ดลับจัดวางให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

โพสใน

การจัดหิ้งพระหรือห้องพระถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้านสำหรับชาวพุทธ เป็นศูนย์รวมจิตใจและพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สมาชิกในครอบครัวใช้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล หลายครอบครัวจึงให้ความสำคัญกับตำแหน่งการติดตั้งเป็นอย่างมาก คำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ หิ้งพระควรหันหน้าไปทางทิศไหน ถึงจะถูกต้องและช่วยเสริมพลังงานที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย บทความนี้ได้รวบรวมหลักการจัดวางหิ้งพระตามหลักฮวงจุ้ย ตั้งแต่ทิศทางที่เป็นมงคล ตำแหน่งที่เหมาะสม ไปจนถึงข้อควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้คุณสามารถจัดหิ้งพระได้อย่างถูกต้องและนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่บ้าน

หิ้งพระควรหันหน้าไปทางไหน ถึงจะถูกหลักฮวงจุ้ย

การเลือกทิศทางในการตั้งหิ้งพระเป็นปัจจัยแรกที่ควรพิจารณา เพราะทิศทางที่ถูกต้องจะช่วยเปิดรับพลังงานบวกและส่งเสริมความเป็นมงคลในด้านต่าง ๆ ตามหลักความเชื่อแล้ว มีทิศทางที่แนะนำเป็นพิเศษอยู่ 3 ทิศหลัก 

  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ทิศเศรษฐี” การหันหิ้งพระไปทางทิศนี้จะช่วยส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวย โชคลาภ และความสำเร็จในธุรกิจการค้า ทำให้กิจการเจริญก้าวหน้า
  • ทิศตะวันออก เป็น “ทิศแห่งราชา” ซึ่งมีความเชื่อว่าจะช่วยเกื้อหนุนในเรื่องหน้าที่การงาน ทำให้การทำงานราบรื่นไร้อุปสรรค ได้รับการส่งเสริมให้มีอำนาจบารมี และมีโอกาสเลื่อนตำแหน่ง
  • ทิศเหนือ ถูกเรียกว่าเป็น “ทิศมัชฌิมาปฏิปทา” การหันหิ้งพระไปทางทิศนี้จะช่วยส่งเสริมความสงบร่มเย็นภายในบ้าน ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และพบเจอแต่ความสุขความเจริญ

สำหรับทิศทางที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาดคือ ทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นทิศกาลกิณี และ ทิศใต้ ที่เชื่อว่าเป็นทิศจัณฑาล อาจนำมาซึ่งความติดขัดและความวุ่นวายในชีวิต

ตำแหน่งติดตั้งหิ้งพระที่เหมาะสม

ตำแหน่งติดตั้งหิ้งพระที่เหมาะสม

นอกจากการเลือกทิศทางแล้ว ตำแหน่งที่ติดตั้งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หลักการสำคัญที่ช่วยให้จำง่ายคือ สูง สะอาด และสงบ ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกพื้นที่สำหรับประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์

บริเวณสูงและสะอาด เหนือระดับศีรษะ

หิ้งพระควรอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าศีรษะของสมาชิกทุกคนในบ้านเมื่อยืนตรง เพื่อแสดงความเคารพสูงสุด โดยควรมีความสูงจากพื้นอย่างน้อย 5 ฟุต แต่ไม่ควรสูงจนเกินไปจนยากต่อการดูแลทำความสะอาดหรือถวายของบูชา บริเวณนั้นต้องสะอาดสะอ้าน ไม่รกรุงรัง และไม่มีสิ่งของอื่นวางปะปน

พื้นที่โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก

ควรเลือกติดตั้งหิ้งพระในบริเวณที่เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ใช่พื้นที่อับทึบ เพื่อให้พลังงานมงคลสามารถไหลเวียนได้อย่างสะดวก การจัดวางในพื้นที่โปร่งยังช่วยสร้างบรรยากาศที่สบายตา ทำให้จิตใจสงบและปลอดโปร่งเมื่อทำการสักการะ

บริเวณที่เงียบสงบ ปราศจากเสียงรบกวน

พื้นที่สำหรับหิ้งพระควรเป็นมุมที่เงียบสงบของบ้าน ปราศจากเสียงดังรบกวน เพื่อให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสวดมนต์และทำสมาธิ การอยู่ในมุมสงบจะช่วยให้ผู้บูชามีจิตใจที่จดจ่อและเกิดสมาธิได้ง่ายขึ้น

จุดอัปมงคลที่ไม่ควรติดตั้งหิ้งพระ

จุดอัปมงคลที่ไม่ควรติดตั้งหิ้งพระ

การหลีกเลี่ยงตำแหน่งที่เป็นอัปมงคลมีความสำคัญเท่ากับการเลือกตำแหน่งที่เป็นมงคล เพราะการติดตั้งในจุดที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลเสียต่อพลังงานโดยรวมของบ้านได้

ไม่ควรติดหิ้งพระใกล้ห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่มีพลังงานด้านลบและถือเป็นธาตุน้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว หิ้งพระซึ่งเป็นธาตุไฟไม่ควรอยู่ใกล้กัน เพราะจะทำให้พลังงานดีถูกบั่นทอน อาจส่งผลให้คนในบ้านเก็บเงินไม่อยู่และมีเรื่องขัดแย้งกันบ่อยครั้ง ประกอบกับห้องน้ำมีทั้งความสกปรกและอับชื้น ตามหลักฮวงจุ้ยห้องพระจุดนี้ถือว่าเป็นอัปมงคล

หลีกเลี่ยงการวางหิ้งพระไว้ใต้คานและเสาลอย

คานและเสาลอยเป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของตัวบ้าน การวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ใต้โครงสร้างเหล่านี้เปรียบเสมือนการกดทับพลังงานมงคลเอาไว้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยพบเจอแต่อุปสรรค ทำสิ่งใดก็ไม่ราบรื่น

ไม่ควรติดหิ้งพระในห้องนอน

ห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัวและมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น การแต่งตัว หากมีความจำเป็นจริง ๆ ควรใช้ฉากหรือม่านกั้นเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน และห้ามหันหิ้งพระไปทางปลายเตียงนอนโดยเด็ดขาด

มุมอับหรือบริเวณที่มีคนเดินผ่านพลุกพล่าน

ไม่ควรวางหิ้งพระไว้ใต้บันได บริเวณทางเดิน หรือใกล้ประตูทางเข้า-ออก เพราะเป็นจุดที่มีคนเดินผ่านตลอดเวลา ทำให้ขาดความสงบและอาจเกิดการเดินข้ามสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง

การจัดวางของบนหิ้งพระควรมีอะไรบ้าง

บนหิ้งพระควรมีเครื่องสักการะพื้นฐานเพื่อแสดงความเคารพ โดยหลัก ๆ แล้วจะประกอบด้วย 3 สิ่งสำคัญ

  • น้ำสะอาด ควรมีแก้วน้ำสะอาด 1 คู่สำหรับถวายพระทุกวัน หรืออย่างน้อยในวันพระ น้ำคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการชำระล้าง เชื่อว่าการถวายน้ำจะช่วยให้ชีวิตราบรื่น มีโชคลาภ และจิตใจผ่องใส
  • ธูปและเทียน กระถางธูป 1 ใบ และเชิงเทียน 1 คู่ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบูชา ในปัจจุบันสามารถใช้ธูปและเทียนไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายได้เช่นกัน
  • ดอกไม้สด ควรมีแจกันสำหรับถวายดอกไม้สด 1 คู่ เพื่อแสดงความเคารพสักการะและสร้างความสดชื่นสวยงามให้กับหิ้งพระ

การจัดลำดับพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหิ้งพระให้ถูกต้อง

การจัดลำดับความสำคัญของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหิ้งพระเป็นสิ่งที่ควรรู้ เพื่อแสดงความเคารพอย่างถูกต้อง โดยมีหลักการเรียงลำดับจากสูงสุดไปต่ำสุด ดังนี้

  • ลำดับที่ 1 พระพุทธรูป ตำแหน่งสูงสุดของหิ้งพระต้องเป็นพระประธานเสมอ ซึ่งอาจเป็นพระพุทธรูปปางต่าง ๆ หรือพระประจำวันเกิดของผู้บูชา หากมีพระพุทธรูปหลายองค์ ควรเลือกองค์ที่นับถือที่สุดเป็นพระประธานเพียงองค์เดียว
  • ลำดับที่ 2 พระอรหันต์ ถัดลงมาเป็นพระอัครสาวกที่เคารพนับถือ เช่น พระสังกัจจายน์ พระสีวลี พระอานนท์
  • ลำดับที่ 3 พระอริยสงฆ์ คือรูปหล่อของพระสงฆ์ที่บรรลุธรรมแล้ว เช่น หลวงปู่ทวด หรือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
  • ลำดับที่ 4 สมมติสงฆ์ เป็นที่สำหรับวางรูปภาพหรือรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ที่เคารพศรัทธา
  • ลำดับที่ 5 พระบรมรูปพระมหากษัตริย์ สามารถวางพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยที่เคารพได้
  • ลำดับที่ 6 องค์เทพต่าง ๆ สำหรับผู้ที่นับถือเทพฮินดูหรือเทพจีน สามารถวางรูปเคารพ เช่น พระพิฆเนศ หรือเจ้าแม่กวนอิม ในลำดับนี้
  • ลำดับที่ 7 บรรพบุรุษ รูปหรืออัฐิของบรรพบุรุษควรอยู่ลำดับล่างสุด หรือทางที่ดีควรแยกหิ้งบูชาต่างหากจะเหมาะสมกว่า

สรุปบทความ

การตัดสินใจว่า หิ้งพระควรหันหน้าไปทางทิศไหน เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยควรเลือกทิศมงคลอย่างทิศเหนือ ทิศตะวันออก หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ควบคู่ไปกับการเลือกตำแหน่งติดตั้งที่สูง สะอาด และสงบ พร้อมหลีกเลี่ยงจุดอัปมงคลต่าง ๆ การจัดวางหิ้งพระอย่างถูกหลักจะช่วยสร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังงานบวก ส่งเสริมให้ชีวิตของทุกคนในบ้านมีความสุข ความเจริญ และความสงบร่มเย็น

การสร้างสรรค์พื้นที่ที่ส่งผลต่อจิตใจและความเป็นอยู่ที่ดีนั้นเป็นหลักการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน หรือพื้นที่สำหรับทำงาน การออกแบบภายในที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้งานจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกับที่ Siam Okamura เราเชื่อว่า การออกแบบออฟฟิศสำนักงานที่ลงตัวไม่ใช่เพียงแค่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ แต่คือการสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้พนักงานมีสุขภาวะที่ดี มีสมาธิ และต่อยอดสู่ความสำเร็จขององค์กร หากคุณกำลังวางแผนรีโนเวทออฟฟิศ และมองหาผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยยกระดับออฟฟิศให้กลายเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและประสิทธิภาพ เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์พื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้ใช้งานอย่างแท้จริง

Latest posts

SEE ALL